ผู้ชายข้ามเพศหลายคน แม้จะมีสภาวะจิตใจของความเป็นชายเต็มร้อยแล้วก็ตาม แต่หลายคนยังพบว่า รูปร่างของตนเองนั้น ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพจิตใจ ดังนั้น การใช้ฮอร์โมนเพศชาย จึงมีบทบาทสําคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้ชาย ข้ามเพศเป็นอย่างมาก เพราะเป็นตัวกําหนดลักษณะความเป็นชาย กระตุ้นให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงสรีระและปรับเปลี่ยน รูปร่างหน้าตาจากหญิงให้ตรงกับความเป็นชายในตัวเอง นอกเหนือจากการผ่าตัดหน้าอก หรือแม้แต่การแปลงเพศที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า การแปลงเพศนั้นต้องมีกระบวนการที่ใช้เวลาและมีหลายขั้นตอน ดังนั้น จุดเริ่มต้นของการ ใช้ฮอร์โมนเพศนั้น จําเป็นต้องเข้าพบจิตแพทย์เพื่อตรวจสอบจิตใจว่ามีความพร้อมหรือไม่กับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะ ฮอร์โมนเพศชายจะเข้าไปควบคุมการทํางานของรังไข่ทําให้เรามีฮอร์โมนเพศหญิงต่ํา แต่จะมีฮอร์โมนเพศชายที่สูงขึ้น เมื่อ ร่างกายเราได้รับฮอร์โมนเข้าไปแล้ว ร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป มีลักษณะความเป็นผู้ชายมากขึ้น เช่น มีหนวดเครา รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบ มีกล้ามเนื้อคล้ายเพศชาย เสียงแตก บางท่านอาจพบเกิดสิวขึ้นบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้ ซึ่งวิธีรักษา ก็ไม่ยากสามารถพบแพทย์ผิวหนัง รับยามาทาตามปกติ สิวก็จะค่อย ๆ หายไปเอง แต่สิ่งที่สําคัญคือการใช้ฮอร์โมนเพศชายควรอยู่ ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเป็น ผู้ชายข้ามเพศอย่างสมบูรณ์แบบ
แปลงเพศ ทั่วไปแล้วก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ จิตแพทย์จะต้องทำการทดสอบคนไข้ก่อนว่าพร้อมที่จะใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงหรือไม่ โดยการใช้ฮอร์โมนหรือการแต่งตัวเป็นผู้หญิงร่วมอย่างน้อย 6 เดือนก่อนการผ่าตัด เป็นต้น แปลงเพศ ฮอร์โมนเพศหญิงที่จะให้กับคนไข้ได้แก่ เอสโตรเจนหรือโปรเจสเตอโรนโดยจะให้เป็น 2 เท่าของผู้หญิงทั่วไป ในขณะเดียวกันก็จะให้ยากดฮอร์โมนเพศชาย เพื่อช่วยให้รูปลักษณ์ความเป็นชายลดลงและเพื่อช่วยลดอารมณ์ทางเพศ การกดฮอร์โมนเพศชายนี้จะต้องทำอย่างต่ำ 2 ปี แปลงเพศ อย่างไรก็ตามคนไข้จะต้องตระหนักถึงผลของการใช้ฮอร์โมนในระยะยาว ได้แก่มีโอกาสที่เส้นเลือดดำจะอุดตัน หรือเป็นมะเร็งเต้านม ดังนั้นการใช้ฮอร์โมนควรอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์อย่างเคร่งครัด